117 จำนวนผู้เข้าชม |
วิธีประหยัดต้นทุนการต้มเบียร์ โดยไม่ลดคุณภาพ
หลายคนไม่ได้เริ่มต้มเบียร์เพราะ “อยากประหยัดเงิน” — เหมือนกับคนที่ซ่อมรถเก่าไม่ได้ทำเพราะมันถูกกว่า แต่ทำเพราะมันสนุก และสร้างสรรค์ ต้มเบียร์ก็เช่นกัน เราทำเพราะมันเป็นงานอดิเรกทาง “อาหาร” ที่ได้แชร์กับคนอื่นได้
โดยเฉพาะช่วงนี้ที่เศรษฐกิจไม่ดี ในฐานะคนที่มองเศรษฐศาสตร์เป็นพื้นฐาน ผู้เขียนก็อดคิดไม่ได้ว่า เราจะประหยัดเวลา เงิน และแรง ยังไงได้บ้าง ซึ่งเป็นเหตุผลที่เขาใช้เวลาหลายปีสอนเรื่อง “ความเรียบง่าย” ในการต้มเบียร์ผ่านบล็อก Beer Simple
ความคิดหลักคือ:
ต้มเบียร์ให้ถูกลงได้ โดยไม่ลดคุณภาพ—บางทีอาจดีขึ้นด้วยซ้ำ
1. ประหยัดตั้งแต่ “สูตร”
สูตรเป็นสิ่งเดียวที่เราควบคุมได้ 100% เทคนิคง่ายที่สุดคือ ลดความแรง (ABV) และลด Original Gravity
ข้อดีของการลดความแรงลงเล็กน้อย เช่น จาก 6.2% → 5.2%
● ใช้มอลต์น้อยลง
● ใช้ฮอปส์น้อยลง เพราะรสหวานตกค้าง (ที่ต้องบาลานซ์ด้วยความขม) น้อยลง
● ค่า IBU ที่ต้องใช้ลดลง
● ฮอปส์ late/ whirlpool/ dry hops ลดลง
● ยีสต์ต้องใช้น้อยลง
● ประหยัดทุกอย่างตามลงมา
ไม่ได้แปลว่าต้องทำให้เบาเกินสไตล์—แค่ “ทำให้พอ” และลองปรับสูตรให้เบาขึ้นโดยไม่เสียรสชาติ บางทีอาจดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ
2. เลือกวัตถุดิบอย่างฉลาด
ฮอปส์ (Hops)
● มองหาฮอปส์ที่ร้านกำลังลด หรือเป็นสายพันธุ์ที่ไม่ได้ฮิต แต่ใช้เป็น bittering ได้ดี
→ ราคาถูกมากแต่คุณภาพไม่ได้ลด
● เลือกฮอปส์ที่ Alpha Acid สูงกว่า ถ้ากลิ่นรสคล้ายกัน
→ ใช้ปริมาณน้อยลง ได้ IBU เท่ากัน
→ เสียน้ำน้อยลงเพราะมี plant matter น้อย
ฮอปส์ extract แม้จะสะดวก แต่มัก แพงกว่า โดยรวม
มอลต์ (Malts)
● หามอลต์ (base malt) ราคาดี เช่น 2-row, Pilsner, Maris Otter
ความต่างไม่มากจนชดเชยด้วย specialty malts เล็กน้อยได้
● ซื้อเป็นถุง 25 kg / กระสอบ คุ้มที่สุด
ยีสต์ (Yeast)
มีทั้งแบบแห้งและแบบ liquid ให้เลือกมากมาย
ประหยัดได้ด้วย:
● ทำ starter เพื่อแบ่งใช้ 1 ซอง → 2 ครั้ง
● เก็บก้นยีสต์ (yeast cake) เพื่อนำมาใช้ซ้ำ 2–3 รอบ
● ซื้อแบบแห้งล็อตใหญ่เก็บได้นานมาก
ซื้อวัตถุดิบเป็น “ยกลัง”
● มอลต์: เก็บในถังปิดสนิท → อยู่ได้หลายปี
● ฮอปส์: ใส่ถุงซิปไล่ลม แช่ฟรีซ → อยู่ได้เกิน 1 ปี
● ยีสต์แห้ง: อยู่ได้ “แทบถาวร”
ซื้อเยอะช่วยให้เราสร้างสูตรแบบใช้วัตถุดิบไม่เยอะ
ซึ่งมักได้เบียร์ที่ “สะอาด เป็นระบบ และอร่อยขึ้น”
3. อุปกรณ์ประหยัดแต่คุ้มค่า
คำว่า “ซื้อครั้งเดียวจบ” ใช้ได้บ้าง แต่ไม่เสมอไป
เริ่มด้วย Brew-in-a-Bag (BIAB)
● ใช้หม้ออะไรก็ได้ (แนะนำหม้อไฟฟ้า เพราะถูกกว่าแก๊สในระยะยาว)
● ซื้อแค่ถุงต้ม + ถุงมือดี ๆ
● ได้ทั้ง all-grain และ extract ในระบบเดียว
ถูกและมีประสิทธิภาพมาก
ใช้ไฟฟ้าแทนแก๊ส
● ไฟฟ้าถูกกว่าแก๊ส (ต้นทุนต่อ batch ต่ำกว่าอย่างชัดเจน)
● ให้ความร้อนมีประสิทธิภาพกว่า
● ถ้าใช้ induction (เตาแม่เหล็กไฟฟ้า) จะประหยัดที่สุด
เคยทดลองหลายระบบแล้ว ไม่มีอะไรให้ Efficiency สูงกว่า “BIAB + induction”
อุปกรณ์ all-in-one
ถ้าคุณไม่อยากยุ่งกับ mash หรือเหนื่อยกับการอ่านอุณหภูมิ
ลองหามือสองที่ราคาโอเค ดีมากสำหรับ homebrewer หลายคน
เลือกขนาดอุปกรณ์ให้เหมาะ
● เล็กไป = ต้องต้มบ่อย → ไม่คุ้ม
● ใหญ่เกินไป = ใช้พลังงานเยอะ สูญเสียความร้อนมาก
● ปริมาณประมาณ 18–23 ลิตร (5 แกลลอน) คือ sweet spot
4. ประหยัดจาก “กระบวนการต้ม”
ต้มแบบ All-grain
ถูกกว่า extract มาก และสดกว่า
Mash นานขึ้น (75–90 นาที)
ฟรี และช่วยเพิ่ม efficiency ได้จริง
ลองตัดฮอปส์ mid-boil (30 และ 10 นาที) ออก
ใส่:
● Hops bittering ตอนเริ่มต้ม
● Hops aroma ตอน whirlpool
ง่ายขึ้น ถูกลง และอร่อยขึ้นในหลายสไตล์
No-chill method
ไม่ต้องใช้น้ำหล่อเย็นเลย
ผู้เขียนทดลองแล้ว “รสไม่ต่าง” แต่:
● ประหยัดน้ำ
● ประหยัดเวลา
● ลดอุปกรณ์
● ต้มเสร็จเทร้อนๆ ใส่ถัง Corny → ปิดฝา → ปลอดเชื้อเอง
● วันรุ่งขึ้นค่อยใส่ยีสต์
ใช้ยีสต์เค้กซ้ำ
ถ้าสไตล์คล้ายกัน เช่น Kölsch → Altbier → Stout
(ใช้ซ้ำ 2–3 ครั้งก็พอ)
ขวด 22 oz. ยังคุ้มที่สุด
แม้หลายคนชอบ keg แต่มุมประหยัด:
● ขวดต้นทุนต่ำกว่าเยอะ
● อุปกรณ์น้อย
● ออกซิเจนเข้าได้น้อยกว่า → เบียร์อยู่ได้นานกว่า
● Keg จะถูกกว่าในระยะ 10–20 ปี… ซึ่งอาจนานเกินจำเป็น
สรุป: ประหยัดได้—โดยไม่ทำให้เบียร์แย่ลง
เราไม่ได้ต้มเบียร์เพราะอยากประหยัด
แต่เรา สามารถ ต้มให้ประหยัดขึ้นได้ โดยไม่ลดคุณภาพแม้แต่นิด
ผู้เขียนตั้งใจจะทำให้การต้มเรียบง่ายขึ้น → เลยได้ของแถมคือ “ประหยัดขึ้น”
เขาบอกว่า 18 ปีที่ลองมา ช่วยให้ต้มได้มากกว่าเดิม และสนุกกว่าเดิมด้วย
สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นเข้ามาในวงการต้มเบียร์ WAS HOMEBREW SHOP เป็นหนึ่งในที่ๆ ช่วยเพิ่มความมั่นใจ จาก ชุดต้มเบียร์ , คลาสสอนทำเบียร์, และ โชว์รูมอุปกรณ์แบบจับต้องได้ มาหาเราได้ที่ www.washomebrew.com หรือ ที่ร้าน: https://maps.app.goo.gl/LCWg1PQxKR9Q41297
เรียบเรียงจากบทความของ Josh Weikert
เรียบเรียงจากบทความของ Josh Weikert